การกลับมาของ แคลช เดอ คาร์เทียร์ (Clash de Cartier) เครื่องประดับสองขั้วที่ทลายทุกกฎเกณฑ์

คาร์เทียร์ (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส เปิดตัวสมาชิกใหม่ของแคลช เดอ คาร์เทียร์ (Clash de Cartier) คอลเลคชั่นเครื่องประดับสองขั้วที่ทลายทุกกฎเกณฑ์จากเมซง สำหรับดีไซน์ใหม่ประจำปีนี้ แคลช เดอ คาร์เทียร์ถ่ายทอดความสมดุลแห่งดีไซน์ผ่านสัญลักษณ์ของศิลปะสองขั้ว โดยนำรหัสจากความงดงามของชิ้นงานในอดีต ผสานเข้ากับความร่วมสมัยของห้วงเวลาปัจจุบัน รังสรรค์เป็นเครื่องประดับชิ้นไอคอนิคแห่งอนาคต

แคลช เดอ คาร์เทียร์ โฉมใหม่มาพร้อมดีไซน์อันซับซ้อนและแยบยล สามารถสวมใส่ได้หลากสไตล์ และตรึงตาต้องใจตั้งแต่แรกเห็น เฉกเช่นเดียวกับนักแสดงสาวชาวอังกฤษ-อเมริกัน ลิลลี่ คอลลินส์ (Lily Collins) แอมบาสเดอร์ผู้บอกเล่านิยามของคอลเลคชั่นแคลช เดอ คาร์เทียร์ ได้อย่างชัดเจน ลิลลี่สามารถถ่ายทอดศิลปะแห่งคู่ขนานของคอลเลคชั่นแคลช เดอ คาร์เทียร์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เธอยังเป็นตัวแทนของอิสตรียุคใหม่ผู้เปี่ยมด้วยรสนิยมอันลึกซึ้ง ไม่ว่าจะโลดแล่นอยู่บนจอหรือแม้แต่ตอนเป็นตัวเอง

การกลับมาอีกครั้งของ Clash de Cartier…เกินไป หรือ ยังไม่พอ

แคลช เดอ คาร์เทียร์ (Clash de Cartier) เดิมพันที่เหนือกว่ากับปรัชญาดั้งเดิมของตัวเอง  ผลงานสร้างสรรค์ล่าสุดที่ขยายมิติแห่งคู่ขนานซึ่งไม่อาจแยกจากกัน ภายใต้รหัสความงดงามตามแบบฉบับของเมซง โดยเล่นกับเทคนิคที่รังสรรค์ดีไซน์แบบเดียวกันขึ้นมาอีกครั้ง (การทำซ้ำและเนื้อสัมผัสอันหลากหลายของอัญมณี ใจความสำคัญของทั้งสองสิ่งนี้เพื่อสร้างภาษาภาพที่ผสานทั้งจังหวะและความหนักแน่น เนรมิตเป็นคอลเลคชั่นเครื่องประดับสไตล์พังก์ที่งดงามเกินต้าน พร้อมลูกเล่นความมีชีวิตชีวายามเมื่อสวมใส่

หมุดจัตุรัสทรงโดมหรือ Clou Carré แบบแถวคู่ 

 

หมุดจัตุรัสทรงโดม (Clou Carré Studs) อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเป็นเสมือนแกนหลักของคอลเลคชั่นนี้ ถูกนำมาเรียงรายเป็นแถวคู่บนเรือนแหวนและต่างหู ไปจนถึงกำไลข้อมือและสร้อยคอที่แลดูราวกับขยับเคลื่อนไหวได้อย่างสง่างาม โดยมีให้เลือกในตัวเรือนโรสโกลด์และทองคำประดับเพชร ทั้งกำไลข้อมือและสร้อยคอร้อยเรียงเข้าด้วยกันด้วยตัวล็อกซึ่งซ่อนไว้อย่างแนบเนียน จึงทำให้ดีไซน์ของเครื่องประดับในคอลเลคชั่นนี้แลดูราวกับเป็นประติมากรรมชิ้นเอก นอกจากนี้หมุดสตั๊ดแถวคู่ยังเพิ่มมิติและความสะดุดตาให้กับดีไซน์โฉมใหม่ครั้งนี้อีกด้วย

ลูกปัดและหมุดสตั๊ดไซส์ XL 

 

สร้างความคอนทราสยิ่งกว่าเคยด้วยเครื่องประดับที่ขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งแหวน กำไลข้อมือ สร้อยคอ และต่างหู ซึ่งประกอบด้วยหมุดปิโกต์สตั๊ด (picot stud) อันเป็นสัญลักษณ์เด่นประจำคอลเลคชั่น คั่นกลางด้วยวงแหวนขนาดจิ๋วฝังเพชรรอบวง เคียงคู่กับออนิกซ์เม็ดกลมที่เพิ่มความอ่อนโยนทว่าลุ่มลึก ตัดกับตัวเรือนโรสโกลด์อันแวววาวของหมุดสตั๊ดได้อย่างกลมกลืน

หัตถศิลป์ชั้นครูและความชำนาญ

ดีไซน์อันเรียบหรูสง่างามของเครื่องประดับชิ้นใหม่จากคอลเลคชั่นแคลช เดอ คาร์เทียร์ แฝงไว้ซึ่งความซับซ้อนในเชิงดีไซน์ที่ต้องอาศัยหัตถศิลป์และงานฝีมือชั้นครู ส่วนประกอบกว่า 600 ชิ้นที่เคลื่อนขยับได้ล้วนถูกประกอบเข้าด้วยกันอย่างประณีตบรรจงเพื่อสร้างความรู้สึกพลิ้วไหวราวกับสายน้ำบนเรือนร่างของผู้สวมใส่ การฝังเพชรบนองค์ประกอบต่างๆ ของเครื่องประดับคอลเลคชั่นนี้ ต้องอาศัยความละเอียดถ้วนถี่ เพื่อขับเน้นความเป็นที่สุดแห่งความเปล่งประกายจากเพชรแต่ละเม็ด ในขณะที่ยังคงรักษาเส้นสายอันสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นของเครื่องประดับแคลช เดอ คาร์เทียร์เอาไว้ด้วย เครื่องประดับไซส์ XL ในคอลเลคชั่นนี้จึงนับเป็นความท้าทาย   เชิงเทคนิคและความสวยงามที่ช่างเจียระไนอัญมณีต้องเผชิญ ในการสรรสร้างออนิกซ์สีดำขลับรูปทรงเรขาคณิตที่สมบูรณ์แบบแต่ยังมอบความอ่อนโยนลุ่มลึกให้กับเครื่องประดับชิ้นนี้

หมุดปิโกต์สตั๊ด (Picot Stud) สัญลักษณ์ประจำคอลเลคชั่น

 

คาร์เทียร์สามารถเสาะหาความสวยงามจากสรรพสิ่งในชีวิตประจำวันมาบรรจุไว้ในคัมภีร์แห่งรูปทรงได้เสมอ ด้วยสัดส่วนที่ได้รูปและความพึงใจในหมุดปิโกต์สตั๊ด นักสร้างสรรค์เครื่องประดับได้เผยความสง่างามเหนือกาลเวลาที่แฝงจิตวิญญาณขบถ หมุดรูปทรงโคนนี้ได้รับการเปิดตัวเป็นอีกหนึ่งผลงานศิลปะของเมซงคาร์เทียร์เมื่อต้นศตวรรษที่ 20 โดยเครื่องประดับศีรษะประดับหมุดปิโกต์สตั๊ดได้สร้างความประทับใจให้กับสาธารณชนอย่างเต็มเปี่ยมในงานนิทรรศการ International Exhibition of Modern Decorative and Industrial Arts เมื่อปี 1925 ที่ซึ่งคาร์เทียร์ได้ทำให้เหล่าผู้เข้าชมหลงเสน่ห์ผลงานสร้างสรรค์ของเมซงอย่างยากจะถอนตัว ภายใต้ทิศทางการสร้างสรรค์ผลงานที่นำโดย ฌาน ตูแซงท์ (Jeanne Toussaint) สตรีผู้เป็นตำนานของเมซงตั้งแต่ปี 1933 ถึงช่วงยุคทศวรรษที่ 70 ซึ่งทำให้หมุดปิโกต์ยังคงเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ประจำคาร์เทียร์ ผ่านเส้นสายและข้อต่อต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ทางด้านโครงสร้าง อีกทั้งยังเพิ่มมิติให้เครื่องประดับแลดูอลังการมากกว่าเคย

 

เติมเต็มสไตล์ของคุณให้โฉบเฉี่ยวยิ่งกว่าเคยด้วยเครื่องประดับคอลเลคชั่นแคลช เดอ คาร์เทียร์ (Clash de Cartier) ได้ที่คาร์เทียร์บูติค สยามพารากอน ดิเอ็มโพเรียมและไอคอนสยาม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป #ClashdeCartier

ALL Lifestyle UPDATE