เมื่อคุณเสิร์ชหา คำว่า วิ่ง ในกูเกิล ความหมายที่ค้นพบก็จะใกล้เคียงกันหมด คือ การเคลื่อนที่บนพื้นดินของมนุษย์หรือสัตว์ที่ใช้เท้าเคลื่อนที่อย่างฉับไว หรือหมายถึงกีฬาของมนุษย์ ที่เป็นการเคลื่อนที่มีความเร็วในจุดที่ทั้ง 2 เท้าอยู่เหนือพื้นในขณะเดียวกัน ซึ่งการวิ่งของมนุษย์พัฒนามาราว 4.5 ล้านปีก่อน เพื่อให้มนุษย์สามารถที่จะล่าสัตว์ได้ การแข่งขันวิ่งมีขึ้นมาในงานด้านศาสนาในหลายพื้นที่ การแข่งขันวิ่งที่มีการบันทึกมาคือ Tailteann Games ที่ไอร์แลนด์ 1829 ก่อนคริสตกาล ขณะที่การแข่งขันโอลิมปิกโบราณครั้งแรกเกิดขึ้น 776 ปีก่อนคริสตกาล
แต่เมื่อคุณมีโอกาศได้คุยกับผู้ชายที่ชื่อ รัฐสภา มหาชน ผู้ก่อตั้ง nagaya resort รีสอร์ตเล็กๆ แถบป่าตะวันตก ของประเทศไทย ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ผู้ที่ชื่นชอบการวิ่งเป็นชีวิตจิตใจ เริ่มจากวิ่งเพื่อสุขภาพแปรเปลี่ยนมาเป็นวิ่งเพื่อมิตรภาพจากการแข่งขันหลายรายการทั้งในประเทศและต่างประเทศ คุณจะได้ความหมายอีกแบบหนึ่งเลย เป็นความหมายที่มาจากความรู้สึกรักในการวิ่งล้วนๆ ชนิดไม่ปรุงแต่ง
"สำหรับผมวิ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต สุขภาพ และการได้ใช้เวลากับตัวเอง มิตรภาพกับผู้คนและวิวสองข้างทาง วิ่งเป็นความสุข เป็นสติ เป็นความสนุก ความท้อแท้ ความทรมาน ความท้าทาย แล้วจบด้วยความสุข ผมยิ้มทุกครั้งเมื่อหวลกลับไปนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านไปในการวิ่งแต่ละครั้งเมื่อได้นั่งคุยในวงสนทนา หรือย้อนระลึกถึงเหตุการณ์ผ่านเหรียญรางวัลที่ผมได้รับครับ"
รัฐสภา มหาชน หรือสภา ชื่นชอบการวิ่งตั้งแต่สมัยเด็กๆ เริ่มจากวิ่งงานโรงเรียน ซึ่งมีครั้งหนึ่งเขาเคยขอคุณพ่อลงแข่งวิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตร ซึ่งตอนนั้นอยู่ชั้นประถมปีที่ 5 วิ่งเสร็จกลับบ้านหลับตั้งแต่เช้าถึงเย็นเลยทีเดียว ผู้ชายคนนี้บอกเหตุผลถึงความชอบวิ่ง กับ D-Daytrendy ว่า "ผมชอบบรรยากาศการวิ่ง เพราะวิ่งที่ไหนก็ได้ อุปกรณ์ไม่มาก ที่สำคัญคือ ได้อยู่กับตัวเอง พิจารณาเข้าไปข้างในตัวเองในระหว่างเคลื่อนไหวร่างกาย ที่จริงผมก็วิ่งมาตลอดนะ แต่กลับมาจริงจังอีกทีเมื่อ 6 ปีที่แล้วครับ"
คงอยากรู้กันละซิว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ผู้ชายคนนี้กลับมาวิ่งอีกครั้ง ถึงขนาดลงแข่งขันรายการที่นับว่ายากเป็นอันดับต้นๆของโลกกีฬา ไอรอนแมน ซึ่งการแข่งขันประกอบด้วย ว่าย 3.86 กิโลเมตร, ปั่นจักรยาน 180.25 กิโลเมตร และ วิ่ง 42.2 กิโลเมตร ทุกอย่างทำอย่างต่อเนื่องทั้งหมดจบภายในหนึ่งวัน ภายในเวลา 17 ชั่วโมง เป็นความท้าทายแบสุดโต้งจริงๆ
- อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้หันมาสนใจเรื่องวิ่งอย่างจริงจังอีกครั้ง
พอดีผมได้มีโอกาสไปทำงานให้ทีม laguna phuket triathlon เห็นนักกีฬาต่างประเทศโดยเฉพาะฝรั่งแข่งไตรกีฬา เคยด่าทอในใจว่า " เค้าบ้าป่าวว่ะ ทำไมคนๆ หนึ่งถึงต้องทรมานร่างกายทั้งวิ่งเป็นระยะทางไกลๆ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน " และแอบนั่งคิดว่าเขาทำได้ เราก็เป็นคนเหมือนเขา อยากลองท้าทายใจและกายเราด้วย เลยมีแรงบันดาลใจให้กลับมาวิ่งอีกครั้งหนึ่ง ตอนนั้นคิดว่าขอซักครั้งเถอะ แต่นี่ผ่านมา 5 -6 ปีแล้วยังไม่หยุดเลยครับ
- เริ่มวิ่งครั้งแรกเตรียมตัวอย่างไร และวิ่งลงวิ่งระยะทางเท่าไหร่
เอาจริงๆ นะ ผมไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยครับ เดินไปหารองเท้ากีฬาในบ้าน แล้วออกไปเลย ไม่ชอบตั้งท่า ทำอะไรทำได้ ทำเลย วันนั้น วิ่งๆ เดินๆ ครับ ระยะทางหนึ่งกิโลเมตร สองกิโลเมตรก็แทบตายแล้วครับ
- พัฒนาการการวิ่งของตัวเองเป็นอย่างไร
แรกๆ ผมใช้แรงกาย ลูกบ้าล้วนๆ คิดว่าตัวเองร่างกายแข็งแรง และเคยได้รับการสอนพื้นฐานตอนเป็นนักกีฬาวิ่งชั้นประถม สมัครงานวิ่งไปเดี๋ยวดีเอง ตอนนั้นคิดแค่นี้ พอมีท่าดริลพื้นฐานบ้าง หลังๆไม่พัฒนา ก็คิดว่าไม่ได้การล่ะ ก็เริ่มหาข้อมูลในโซเชียลบ้าง คุยกับเพื่อนที่วิ่งด้วยกัน เข้ากลุ่มซ้อมบ้างครับ มีตารางวิ่งคร่าวๆ ตามแต่เวลาอำนวยครับ
- เริ่มลงแข็งขันครั้งแรกรู้สึกอย่างไรทั้งที่เมื่องไทยและต่างประเทศ
เมืองไทยเหรียญแรกก็ดีใจมากครับ แต่จำไม่ได้แล้วว่าสนามไหน จำได้แต่ว่า ตอนวิ่งนี่คือ มันได้พาตัวเองไปข้างหน้า จบเข้าเส้นชัย เดินขาเป๋กันไป กลับถึงบ้านก็ปางตายเพราะใส่สุดแรง ปวดขาไปสองวัน
สนามแรก ต่างประเทศซัก 4 ปีที่แล้ว ที่ osaka marathon เตรียมตัวมาพอสมควร บรรยากาศเมื่อย้อนกลับไปคิด โห!!! เคยเห็นแต่ในทีวี แบบว่าคนวิ่งเป็นหมื่นๆ หัวใจเต้นตูมตาม จะไหวไหมเนี่ย คนออกมาเชียร์เป็นหมื่นเป็นแสน ตลอดสองข้างทาง 42 กิโลเมตร ไม่มีช่วงไหนที่ไม่มีคนยืนเชียร์ คุณคิดว่าคนกี่คน ปิดเมืองวิ่ง แอบดีใจว่าเราทำเวลาได้ดีแน่ๆ ใส่สุดเลยครับ ช่วงกลางๆ ของระยะทางวิ่ง สรุป ยางแตก 10 กิโลท้าย เดิน วิ่ง สลับนั่ง หนังชีวิตเลย เจ็บใจ ว่าจะไปแก้มือ แต่ประทับใจครับ เข้าใจเลยว่างานต่างประเทศเค้าไปไกล แต่ที่บ้านเราก็ทำได้นะครับ
- ความแตกต่างการลงวิ่งที่เมืองไทย และที่ต่างประเทศ
ถ้าพูดถึงเมื่อตอนเริ่มกลับมาวิ่ง มาตรฐานการจัดงานและความมีส่วนร่วมของกองเชียร์ ค่อนข้างแตกต่างกันมาก แต่มาสองปีหลังนี้ ผู้จัดงานในเมืองไทยหลายคน พัฒนามาตรฐานการจัดการได้ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศครับ ก็รอเวลาที่กองเชียร์มีส่วนร่วมมากขึ้นไปเรื่อยๆ และหลายๆ งานก็มีการยกระดับมาตรฐาน หน่วยงานรัฐเริ่มเห็นว่ากิจกรรมการวิ่งเป็นสิ่งที่ดี ส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมสุขภาพ สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่งานวิ่งต่างประเทศ งานหลักๆ ที่แตกต่างกับบ้านเรา คือ ความมีส่วนร่วมของชุมชน กองเชียร์ มันอบอุ่น และ สนุกครับ อาจเพราะ เราได้ไปต่างบ้านต่างเมืองด้วยก็ได้ มันคือ การท่องเที่ยวเชิงกีฬา
- มีการวิ่งครั้งไหนที่ประทับใจหรือมีเหตุการณ์ที่จำไม่ลืมบ้าง
ผมว่างานหลายงานในใจผม มันมีมุมให้ประทับใจเยอะครับ ทั้งกับจิตใจภายใน นักวิ่งด้วยกัน สถานที่ และบรรยากาศงาน
ทรมานสุดๆ น่าจะเป็น วิ่ง TNF100 (Thailand Northface 100k) วิ่งในอุณหูภูมิสูงตามภูมิประเทศ เท้าพองสองข้าง ทรมานน้ำตาไหล งานนี้น่าจะเป็นงานเดียวที่ผมอยากยอมแพ้จากหัวใจ แต่ต้องไปให้ถึงเส้นชัย สะใจมาก
ช่วงเวลาประทับใจสุด น่าจะเป็นวิ่งโป่งแยงเทรลปีที่ผ่านมา อยู่กลางป่าคนเดียว สามทุ่มกว่า ลมกรรโชก ยอดไม้ปลิวสะบัด พระจันทร์ดวงโต มันสุดยอดมากครับ
เหนื่อยสุดๆ น่าจะเป็นงานวิ่ง moon run 21k ที่อำเภอสวนผึ้ง จ. ราชบุรี เป็นงานวิ่งกลางคืนครั้งแรกที่จัดในสวนผึ้ง เป็นงานวิ่งที่ทางผมป็นผู้จัดในนามชมรม ไอ เลิฟ สวนผึ้ง ร่วมกับบริษัท จีเอ็ม มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตนิตยสาร GM , 247 ฯลฯ รวมถึงสื่อออนไลน์ GM Live งานนั้นผมเตรียมงาน เดินสนุกทั้งวัน เหนื่อยใจครับ พอจบงานโล่งใจ ยิ้มในใจ
ดีใจที่สุด งานวิ่งสวนกุหลาบมินิมาราธอน เห็นเพื่อนๆ ที่เรียนกันมาออกมาวิ่งกันมากขึ้นๆ ไม่รู้เป็นเพราะกระแสหรือการกล้าที่จะออกมาวิ่งเพื่อสุขภาพกัน แต่ยังไงมันก็ดีสำหรับตัวเพื่อนเองและคนรอบข้าง
ชอบที่สุด คือ การได้ออกไปวิ่งเห็นพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ที่บ้านหรือไม่ว่าที่ไหนๆ ในโลก ได้ยินเสียงนกร้อง ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ รอยยิ้มและเม็ดเหงื่อ รวมถึงบรรยากาศที่เคลื่อนตัวไปสองข้างทางครับ
- คิดอย่างไรกับคำว่า การวิ่งเป็นการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง หรือเป็นการสร้างกระแสให้ตัวเอง
คำถามนี้ ถ้าจะมองแบบนั้นก็ได้ คงเป็นเพราะทุกคนมีสื่อโซเชียลอยู่ในมือ บ้างก็ไปวิ่งแล้วสนุกอยากบอกต่อให้คนมาออกกำลังกาย บ้างก็อยากบอกว่าฉันทำอะไรอยู่ไหน บ้างก็อาจเป็นกระแส บ้างก็ทำๆไปแล้วคนมาชื่นชม ผมว่าเส้นบางๆ ระหว่างสร้างกระแสให้ตัวเอง กลายมาเป็นการทำธุรกิจ ในวันหนึ่งเมื่อมีผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เห็นคุณค่าของช่องทางการสื่อสารได้ สำหรับผมไม่ว่าจะทำด้วยจุดประสงค์อะไรถ้าวิ่งจริง มันก็คือ สุขภาพ สังคม และความสุข จะสุขกันแบบไหนเลือกกันเองเลยครับ
- เริ่มมีส่วนรวมกับการเป็นผู้จัดวิ่งงานไหนบ้าง
ผมมีส่วนช่วยงานผู้จัดงานมาก่อนบ้างครับ แต่ที่เป็นผู้จัดเต็มตัวเลย คือ งานวิ่ง Moon run ที่อำเภอสวนผึ้ง ซึ่งเป็นงานวิ่งกลางคืนครั้งแรก เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ความรู้สึกหลังจากทุกคนเข้าเส้นชัย มันเป็นความสุขอีกแบบในฐานะผู้จัด ผมนี่นั่งยิ้มดูทุกคนมาสนุก มาออกกำลังกาย มาท่องเที่ยว มามีความสุขกับงานและเพื่อนๆที่รักกัน ความเหนื่อยกายเหนื่อยใจมีบ้างก็เป็นปกติ แต่สุขครับ
- จนถึงวันนี้ได้อะไรจากการวิ่งบ้าง
สุขภาพคงไม่ต้องพูดถึง ได้ตั้งแต่เริ่มออกวิ่งก้าวแรกแล้ว ได้ทบทวนตัวเองระหว่างการวิ่ง โดยเฉพาะวิ่งเทรลนี่คิดพิจารณาใจเยอะครับ มิตรภาพระหว่างทางวิ่ง ยิ่งวิ่งไกลขึ้นมิตรภาพมากขึ้น ยิ่งทางวิ่งยากขึ้นเราก็เห็นอะไรมากขึ้น การวิ่งเป็นเหมือนสื่อกลางระหว่างภายในกับภายนอกกาย ระหว่างเรากับคนรอบข้าง ระหว่างพวกเรากับสิ่งแวดล้อม ได้โอกาสใหม่ๆในชีวิต ชีวิตเปลี่ยนไปมากพอสมควร เที่ยวกลางคืนน้อยลงไม่รู้ด้วยวัยหรือกีฬา วัดไม่ได้เพราะทั้งอายุกับการวิ่งเติบโตทั้งคู่
- อยากเห็นวงการวิ่ง หรือการจัดงานวิ่ง ในเมืองไทยพัฒนาไปในทิศทางไหน
อยากเห็นงานวิ่งที่มีมิตรภาพ รอยยิ้มอยู่รอบๆตัว อยากเห็นวงการวิ่งที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูงขึ้น อยากเห็นงานวิ่งมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง อยากเห็นงานวิ่งที่ทำลายสิ่งแวดล้อมให้น้อยลงๆ อยากเห็นงานวิ่งที่ให้โอกาสคนในชุมชนได้มีส่วนร่วมมากขึ้น อยากเห็นความหลากหลายของงานวิ่ง หลากความอยากเลยครับผม
- มีการแข่งขันวิ่ง การแข่งขันไหนที่อยากลงวิ่งแล้วยังไม่มีโอกาสบ้าง
ความอยากมีเยอะครับ ในประเทศไทยอยากวิ่งในอุทยานแห่งชาติสวยๆ ครับ ผมรอคนจัดครับ ถ้าได้ไปจริงอยากไปวิ่งเทรล atacama ที่ชิลี ซึ่งเป็น1 ใน 4 deserts โหด หิน ร่ายกายต้องพร้อมมากๆ ซึ่งอีกนานครับ ถ้าวิ่งถนน อยากไปวิ่งที่ world major ซักงาน
- คำแนะนำสำหรับคนที่เริ่มวิ่ง หรือเริ่มที่จะลงแข่งขัน
ถ้าจะให้แนะนำ ถ้าอ่านบทสัมภาษณ์นี่จบ วันนี้ออกไปวิ่งเลยครับไม่อยากให้ตั้งท่านาน วิ่งซัก 10 นาที 15 นาที เอาตามที่สุขครับ พยายามทำอย่างต่อเนื่อง อย่าไปเร่งมากจนบาดเจ็บ ค่อยๆ พัฒนาไป อยากให้วิ่งเพื่อสุขภาพก่อนครับ ผมว่าเหงื่อแต่ละหยดให้อะไรกลับมามากกว่าการวิ่ง วิ่งเองรู้เองครับ
- ทุกวันนี้ดูแลสุขภาพตัวเองอย่างไรให้พร้อมสำหรับการวิ่งบ้าง
ผมว่าสมดุลย์ชีวิตสำคัญ ซ้อม ทานอาหาร พักผ่อน ต้องให้พอดี ผมเคยซ้อมหนักๆ ผอม เพลีย ท้อแท้เบื่อหน่าย หมดแรงบันดาลใจ เคยพักผ่อนน้อยก็ไม่ดีอีก อายุมากขึ้น โอกาสวูบสูง กีฬาไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต ต้องระวัง เคยทานอาหารไม่ครบหมู่ ไม่ถูกวิธี ซ้อมเท่าไหร่ น้ำหนักก็ไม่ลง กล้ามเนื้อไม่มา พุงไม่ยุบครับ
ถ้าคุณมีความชื่นชอบเป็นทุนเดิมลองเพิ่มเติมความมุ่งมั่นเข้าไปที่ละนิด โดยที่ยังไม่ต้องคิดถึงการลงแข่งขัน แค่ลองก้าวเท้าออกวิ่งแบบเบาๆ คุณก็จะสัมผัสได้ถึงความสุขจากการวิ่งเฉกเช่นผู้ชายที่ชื่อรัฐสภา มหาชน
เรื่อง : กรรฐา
ภาพ : จาก รัฐสภา มหาชน